บทนี้ผมเขียนแทรกขึนมา เพื่อให้กำลิงใจ และเพื่อให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในแนวทางการลงทุน “แบบคิดสรรในภาวะวิกฤต” เพื่อให้เรามองเห็นภาพลางๆ สระน้ําพลาสติก ราคา ในอนาคตกันบ้าง จะได้มีแรงบันดาลใจกันเนอะ..
การลงทุนในช่วงวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นที่มีราคาลดตํ่าลง ทั้งๆ ที่ต้'วบันเองไม1ได้แย่ไปตาม วิกฤต (หรออาจจะแย่แค1ชั่วคราวจากการขาดทุนสต๊อก ซึ่งปีต่อๆ ไปอาจจะกลิบมาบันทึกเป็นกำไร ก็เช่น หุ้นกลุ่ม ปตท. นั่นไง) สระน้ําพลาสติก รั่ว ผมก็ไม1รู้หรอกนะว่า ROE ที่เราจะเข้าชั่อได้ บันเป็นเท่าไหร่ แต่ผมจะลองเทียบการ เติบโต ในระดิบ 12%, 15% และ 20% มาดูกันหน่อยซิ ว่าบันจะหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง
อธิบาย ทั้นๆง่ายๆถ้าจะสามารถชั่อหุ้นที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 15-20% ติ'ว'หุ้นเองธุรกิจอาจ เติบโตเฉลี่ยที่ 10 - 12% แต่ P / BV สระน้ําพลาสติก ในขณะวิกฤตอาจจะอยู่ในช่วง 0.5 - 0.8 เท่า ซึ่งจะทำให้ ค่า ROE ณ ราคาที่ลงทุน สูงได้ถึง 15-20% และได้ผลตอบแทนตามภาพ ซึ่งถึงแม้จะยาก ก็ไม1ใช่ว่าเป็นไปไม1ได้ เพราะ ขนาดวิกฤตที่ผ่านมา (ปี 2551) หุ้นปูนซีเมนติไทย เคยลงมาจาก 200-300 บาท ไปตํ่าสุด'ที่ 79 บาทมาแล้ว ราคาล่าสุด (ณ กันที่ 10/5/56) อยู่ที่ 486 บาท ROE ของธุรกิจเฉลี่ย 5 ปี น่าจะอยู่ที่ราวๆ 20% บัจจุบัน P/BV 4 เท่า ถ้าซี3อกันนี้ROE แท้จรง จะได้เพียง 5% (20/5) นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราต้องรอวิกฤต..
การรอช่วง “วิกฤต” หมายถึง การรอโอกาสที่จะเข้าลงทุน “หุ้นบันผล” แสนอร่อย ในราคาย่อมเยา
ผมเชื่อว่า เมื่อถึงเวลาที่เกิด “วิกฤต” ขึนมาจรงๆ สิ่งที่ผู้อ่านคงจะคำนึงถึง นอกเหนือไปจากกราฟ ทางเทคนิคอล ที่ผมจะกล่าวในส่วนของภาคปฏิป้ติ ก็คงจะหนีไม1พ้นการเปรียบเทียบกับราคาเมื่อครั้งเกิด ’’วิกฤต” ในครั้งก่อนๆ ผมเลยต้องอธิบายมาในบทนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรองราคา และความถูก แพง อีกส์ก่ครั้งหนึ่ง
สมมติ ผมเป็นผู้เลียงเป็ด สมมติว่าผมมีเป็ด ติ'วเล็ก และเป็นติ'วใหญ่ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ราคา เป็ดตกตํ่า เป็นทั้งติ'วเล็กและติ'วสระน้ําพลาสติก ขนาดใหญ่ราคา ใหญ่ย่อมราคาตกลงตามไปด้วย ทีนี้ถ้าผมสมมติว่า ผมมีเป็ดตัวหนึ่งล่ะ หากในเดือนที่สองที่ผมเลียงราคาเป็ดตกตํ่าเหลือเพียง 50บาท ผมยังไม1ขาย ผมยังเลียงต่อไปจนราคา เป็ดเข้าสู่ภาวะปกติ แล้วเป็ดก็โตขึนเรอยๆ พอมาเดือนที่ 6 ราคาเป็ดตกตํ่าเหมือนเดิมเปียบเลย ถามว่าเป็ด ของผมจะยังราคา 50 บาทหรอไม1
คำตอบก็ดือ “คงจะไม่” เพราะเป็ดของผมตัวใหญ่ขึน ยังไงถ้าเป็ดราคาตกตํ่า ก็คงจะไม1ใช่ 50 บาท แน่นอน เพราะเป็ดตัวใหญ่ขึน สระน้ําพลาสติก ขอบตั้ง ผมอาจจะขายที่ 70-100 บาท หรอเท่าไหร่ก็ว่ากันไป
การลงทุนในช่วงวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นที่มีราคาลดตํ่าลง ทั้งๆ ที่ต้'วบันเองไม1ได้แย่ไปตาม วิกฤต (หรออาจจะแย่แค1ชั่วคราวจากการขาดทุนสต๊อก ซึ่งปีต่อๆ ไปอาจจะกลิบมาบันทึกเป็นกำไร ก็เช่น หุ้นกลุ่ม ปตท. นั่นไง) สระน้ําพลาสติก รั่ว ผมก็ไม1รู้หรอกนะว่า ROE ที่เราจะเข้าชั่อได้ บันเป็นเท่าไหร่ แต่ผมจะลองเทียบการ เติบโต ในระดิบ 12%, 15% และ 20% มาดูกันหน่อยซิ ว่าบันจะหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง
อธิบาย ทั้นๆง่ายๆถ้าจะสามารถชั่อหุ้นที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 15-20% ติ'ว'หุ้นเองธุรกิจอาจ เติบโตเฉลี่ยที่ 10 - 12% แต่ P / BV สระน้ําพลาสติก ในขณะวิกฤตอาจจะอยู่ในช่วง 0.5 - 0.8 เท่า ซึ่งจะทำให้ ค่า ROE ณ ราคาที่ลงทุน สูงได้ถึง 15-20% และได้ผลตอบแทนตามภาพ ซึ่งถึงแม้จะยาก ก็ไม1ใช่ว่าเป็นไปไม1ได้ เพราะ ขนาดวิกฤตที่ผ่านมา (ปี 2551) หุ้นปูนซีเมนติไทย เคยลงมาจาก 200-300 บาท ไปตํ่าสุด'ที่ 79 บาทมาแล้ว ราคาล่าสุด (ณ กันที่ 10/5/56) อยู่ที่ 486 บาท ROE ของธุรกิจเฉลี่ย 5 ปี น่าจะอยู่ที่ราวๆ 20% บัจจุบัน P/BV 4 เท่า ถ้าซี3อกันนี้ROE แท้จรง จะได้เพียง 5% (20/5) นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราต้องรอวิกฤต..
การรอช่วง “วิกฤต” หมายถึง การรอโอกาสที่จะเข้าลงทุน “หุ้นบันผล” แสนอร่อย ในราคาย่อมเยา
ผมเชื่อว่า เมื่อถึงเวลาที่เกิด “วิกฤต” ขึนมาจรงๆ สิ่งที่ผู้อ่านคงจะคำนึงถึง นอกเหนือไปจากกราฟ ทางเทคนิคอล ที่ผมจะกล่าวในส่วนของภาคปฏิป้ติ ก็คงจะหนีไม1พ้นการเปรียบเทียบกับราคาเมื่อครั้งเกิด ’’วิกฤต” ในครั้งก่อนๆ ผมเลยต้องอธิบายมาในบทนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรองราคา และความถูก แพง อีกส์ก่ครั้งหนึ่ง
สมมติ ผมเป็นผู้เลียงเป็ด สมมติว่าผมมีเป็ด ติ'วเล็ก และเป็นติ'วใหญ่ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ราคา เป็ดตกตํ่า เป็นทั้งติ'วเล็กและติ'วสระน้ําพลาสติก ขนาดใหญ่ราคา ใหญ่ย่อมราคาตกลงตามไปด้วย ทีนี้ถ้าผมสมมติว่า ผมมีเป็ดตัวหนึ่งล่ะ หากในเดือนที่สองที่ผมเลียงราคาเป็ดตกตํ่าเหลือเพียง 50บาท ผมยังไม1ขาย ผมยังเลียงต่อไปจนราคา เป็ดเข้าสู่ภาวะปกติ แล้วเป็ดก็โตขึนเรอยๆ พอมาเดือนที่ 6 ราคาเป็ดตกตํ่าเหมือนเดิมเปียบเลย ถามว่าเป็ด ของผมจะยังราคา 50 บาทหรอไม1
คำตอบก็ดือ “คงจะไม่” เพราะเป็ดของผมตัวใหญ่ขึน ยังไงถ้าเป็ดราคาตกตํ่า ก็คงจะไม1ใช่ 50 บาท แน่นอน เพราะเป็ดตัวใหญ่ขึน สระน้ําพลาสติก ขอบตั้ง ผมอาจจะขายที่ 70-100 บาท หรอเท่าไหร่ก็ว่ากันไป